ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของโรครุนแรงแบบในปัจจุบันนี้การสัมภาษณ์งานที่ต้องพบเจอระหว่างตัวบุคคลดูเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ะกระจายของเชื้อ จึงไม่แปลกหากหลายบริษัทจะมีใช้วิธีสัมภาษณ์งานออนไลน์ และถ้าหากคุณสมัครงานและต้องสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นด้วยวิธีดังกล่าว ก็มีสิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อโอกาสผ่านเกณฑ์ตามประเมินของ HR ได้เข้าทำงานอย่างที่ตนเองคาดหวังเอาไว้

7 เรื่องเตรียมพร้อมเมื่อสัมภาษณ์งานออนไลน์กับบริษัทญี่ปุ่น

1. อุปกรณ์การสื่อสารที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน

ด้วยพื้นฐานของคนญี่ปุ่นมีความคุ้นชินกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเรื่องไอทีต่าง ๆ อยู่แล้ว จึงไม่แปลกหากบรรดาบริษัทญี่ปุ่นจะให้ความใส่ใจกับอุปกรณ์สื่อสารที่ต้องมีความคมชัด ไม่กระตุก มองเห็นหน้าตาระหว่าง 2 ฝ่ายได้อย่างชัดเจน คำแนะนำเบื้องต้นคือควรเป็นโน้ตบุ๊ก, PC ที่เปิดกล้องได้ หรือกรณีเป็นไอแพด มือถือ ก็ควรทำการตั้งวางในระดับเหมาะสม ไม่ให้มีการเคลื่อนไหว สั่นสะเทือนจนภาพขยับไปมาเป็นเรื่องน่าปวดหัว

2. สัญญาณอินเทอร์เน็ตลื่นไหล ไม่สะดุด

จะบอกว่าเป็นพื้นฐานของรูปแบบสัมภาษณ์งานออนไลน์คงไม่ผิดนัก เพราะถ้าสัญญาณอินเทอร์เน็ตขาด ๆ หาย ๆ พูดคุยไม่รู้เรื่อง HR ที่ไหนก็คงไม่อยากรับเข้าทำงาน ด้วยอธิบายสิ่งใดไม่เข้าใจอย่างชัดเจน แถมยังเสียอารมณ์กันทั้ง 2 ฝ่ายอีกต่างหาก แนะนำให้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้าน หรือปล่อย Wi-Fi จากมือถือของตนเอง อย่าใช้อินเทอร์เน็ตสาธารณะที่ไม่แน่ใจเรื่องความเสถียรของสัญญาณ

3. การแต่งกายยังคงต้องใส่ใจ

อย่าคิดว่าเป็นการสัมภาษณ์งานผ่านระบบออนไลน์แล้วจะแต่งตัวยังไงก็ได้ หรือแต่งแค่ท่อนบนให้ดูดี ส่วนท่อนล่างแบบชิลล์ ๆ เพราะบางครั้งระหว่างสัมภาษณ์งานอาจมีจังหวะให้คุณต้องลุกขึ้น ตรงนี้หากแต่งตัวไม่ดีพอถือเป็นสิ่งไม่ให้เกียรติ (ซึ่งคนญี่ปุ่นถือเรื่องนี้มาก) โอกาสสัมภาษณ์ไม่ผ่านมีสูง แถมยังมองเหมือนไม่ได้ตั้งใจอยากเข้าทำงานสักเท่าใดนักอีกต่างหาก อย่างน้อยจึงควรแต่งกายแบบเดียวกับที่คุณจะไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นจริง ๆ ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง

4. เสียงรบกวนต้องไม่ควรเกิดขึ้นในทุกกรณี

แม้เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากว่าระหว่างสัมภาษณ์งานออนไลน์จะมีเสียงรบกวนใด ๆ เข้ามาหรือไม่ แต่เพื่อเป็นมารยาทอันเหมาะสม ก็ควรเลือกสถานที่ให้มิดชิด ไม่มีเสียงอื่นใดรบกวนระหว่างพูดคุยจะดีที่สุด ด้วยเหตุนี้คำแนะนำเบื้องต้นจึงอาจเลือกเป็นห้องของตนเองที่ปิดมิดชิด แต่ถ้าหากใครไม่สะดวกก็คงต้องมองหาร้านกาแฟที่เงียบสงบสักนิด เปิดแค่เสียงเพลงคลอเบา ๆ แล้วอธิบายให้ HR เข้าใจเบื้องต้นถึงเหตุผลที่เลือกสถานที่สัมภาษณ์งานดังกล่าว

5. การ Presentation ทำผ่านออนไลน์ดีกว่าโชว์เอกสารหน้ากล้อง

ด้วยรูปแบบสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นผ่านออนไลน์ การแสดงถึงความทันสมัยให้กับ HR ได้เห็นจะช่วยเพิ่มคะแนนของคุณให้สูงและมีโอกาสเข้าทำงานตามที่หวัง เรื่องของ Portfolio ที่จะนำเสนอแนะนำให้ทำผ่านออนไลน์ เช่น ใช้โปรแกรม Power Point หรือวางเป็นโฟลเดอร์แยกไว้ต่างหาก จากนั้นอาจใช้การส่งข้อมูลให้กับ HR ได้ตรวจสอบ หรือจะ Share Screen แล้วอธิบายผลงานของตนเองก็ไม่ว่ากัน อย่าใช้วิธีหยิบแฟ้มงานโชว์ผ่านหน้ากล้อง เพราะดูไม่มืออาชีพอย่างแรง ยกเว้นผลงานบางอย่างที่ไม่สามารถอัปโหลดเป็นไฟล์ได้จริง ๆ

6. อย่าใช้เวลาของบริษัทมาสัมภาษณ์งานใหม่เด็ดขาด

แม้จะเป็นการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ก็ตาม ผู้สัมภาษณ์ควรวางแผนเรื่องเวลามาอย่างดี มีการลางานกับบริษัทที่ยังคงทำอยู่ให้เรียบร้อย ไม่ใช้เวลางานของบริษัทมาหาผลประโยชน์ให้ตนเอง เพราะแสดงออกถึงความไม่ซื่อสัตย์ บางคนนัดสัมภาษณ์ออนไลน์ทั้ง ๆ ที่ยังนั่งทำงานในออฟฟิศเพราะไม่อยากเสียวันลาจัดเป็นเรื่องไม่ควรทำอย่างยิ่ง

7. เตรียมคำตอบและข้อมูลต่าง ๆ ให้พร้อม

สุดท้ายเมื่อทุกอย่างพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานแล้วต้องอย่าลืมเตรียมข้อมูลทุกด้านที่จะใช้ตอบคำถามด้วย ไม่ว่าจะเรื่องข้อมูลเบื้องต้นของบริษัทที่สมัคร, การตอบคำถามสไตล์บริษัทญี่ปุ่นที่มักถามให้แสดงความคิดเห็น และอื่น ๆ ตามที่เห็นถึงความเหมาะสม เพราะท้ายที่สุด HR ผู้สัมภาษณ์งานออนไลน์มักมองถึงจุดเด่นในด้านนี้มาเป็นอันดับ 1 หากคำตอบของคุณดีพอ น่าสนใจ ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงพลังและ Impact ที่อยากร่วมงานด้วย ยังไงก็มีสิทธิ์ได้คะแนนดีกว่าคนอื่นและเข้าทำงานดังปรารถนา

นี่คือ 6 เรื่องพื้นฐานที่ควรเตรียมให้พร้อมเพื่อสัมภาษณ์งานออนไลน์กับบริษัทญี่ปุ่นไม่ว่าทำงานในตำแหน่งใดก็ตาม เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมไว้อย่างเหมาะสมพอถึงเวลาต้องสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นจริงก็มักเป็นเรื่องง่าย ได้คะแนนผ่านฉลุย ตรงกับสิ่งที่ตนเองคาดหวังไว้แน่นอน