อยากสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นผ่านฉลุย อย่าถามสิ่งเหล่านี้กับ HR

อยากสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นผ่านฉลุย อย่าถามสิ่งเหล่านี้กับ HR
เป็นเรื่องปกติเมื่อคุณไปสมัครงานบริษัทญี่ปุ่น หลังจากมีการตรวจสอบประวัติ พูดคุยสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากทาง HR และหัวหน้าแผนก หรือผู้จัดการแผนก เพื่อให้ผู้สมัครได้แสดงศักยภาพของตนเองแล้ว ตอนท้ายก่อนจบการสัมภาษณ์งานมักมีคำถามจาก HR ในลักษณะที่เปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้ถามข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์กรเพื่อให้จุดประสงค์ของทั้ง 2 ฝ่ายตรงกันมากที่สุด อย่างไรก็ตามหากคุณตั้งใจจะเข้าทำงานบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้จริง ๆ นี่คือลิสต์คำถามที่ไม่ควรถามเป็นอันขาด พยายามหลีกเลี่ยงย่อมเพิ่มโอกาสการรับเข้าทำงานมากกว่าอย่างแน่นอน

ทำไม HR ต้องเปิดโอกาสให้คนสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นได้ถามข้อสงสัย

ตามที่เกริ่นเอาไว้เบื้องต้นหลังจากทำการพูดคุย สัมภาษณ์งานกันเสร็จสรรพทุกอย่างแล้ว HR มักเปิดโอกาสให้กับผู้สมัครได้ถามคำถามบางอย่างที่ตนเองสงสัย เหตุผลแรกเพื่ออยากให้ผู้สมัครได้เข้าใจถึงคำถามที่ตนเองมีอยู่อย่างชัดเจน เป็นการเปิดใจคุยกันของทั้ง 2 ฝ่าย ให้ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกันภายใต้ความเหมาะสมและพอดี ขณะที่อีกมุมหนึ่ง HR เองก็ต้องการทดสอบไหวพริบ และทักษะเชิงจิตวิทยาของคนที่มาสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นเกี่ยวกับทัศนคติด้วย หากประเมินจากคำถามแล้วมีแนวทางใกล้เคียงกับบริษัท หรือถามได้อย่างมีชั้นเชิง โอกาสเข้าทำงานบริษัทญี่ปุ่นก็มีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

เช็กลิสต์คำถามที่คนสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นไม่ควรถาม HR

แม้จะมีคำถามที่ผู้สมัครยังรู้สึกสงสัยในหลายเรื่อง แต่ก็มีบางประเด็นที่อยากแนะนำว่าไม่ควรสอบถาม HR ขณะที่คุณพึ่งสัมภาษณ์งานเพื่อเตรียมเข้าทำงานบริษัทญี่ปุ่นเป็นอันขาด เพราะถ้าหากถามออกไปแล้วอาจกระทบต่อความรู้สึก หรือดูเอารัดเอาเปรียบจนการสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นของคุณล้มเหลว

  1. คำถามเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง การปรับเงินเดือน

แม้ทุกคนต่างเข้าใจดีว่าเวลาทำงานใครก็ต้องการเงินเดือน รายได้ หรือผลประโยชน์ที่จะได้รับจากองค์กร ซึ่งปกติเมื่อคุณเข้ามาพูดคุยกับทาง HR ตั้งแต่แรกจะมีการระบุเรื่องของเงินเดือนเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นการสอบถามเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง เลื่อนขั้น หรือระยะเวลาที่จะมีการปรับเงินเดือนเมื่อเข้าทำงานก็ดูเป็นสิ่งที่เอาเปรียบสักเล็กน้อย เพราะทางองค์กรเองก็ยังไม่ได้เห็นศักยภาพของผู้สมัครว่าทำงานดีมากน้อยแค่ไหน จึงอยากให้หลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้เอาไว้ก่อน

  1. คำถามเกี่ยวกับการทำงานล่วงเวลา

ความชอบในการทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมักทำงานล่วงเวลาเพื่อให้มีรายได้เยอะขึ้น แต่กับอีกหลายคนรู้สึกว่าตนเองทำงานตามเวลาปกติก็เต็มพิกัดแล้ว หากยังทำต่อจะเหนื่อยล้าเกินไป อย่างไรก็ตามเมื่อคุณกำลังสัมภาษณ์งานคำถามลักษณะดังกล่าว เช่น ที่นี่มีทำงานล่วงเวลาหรือไม่? ได้เงินจากการทำล่วงเวลาไหม? แต่ละสัปดาห์ต้องทำงานล่วงเวลากี่ชั่วโมง? ก็ดูเป็นคำถามที่บ่งบอกถึงความระแวง หรือรู้สึกถึงความไม่ชอบซึ่งอาจทำให้ HR มองถึงความไม่มีวิริยะอุตสาหะของคุณได้เช่นกัน

  1. คำถามเกี่ยวกับคำชี้แนะเพื่อให้ได้เข้าทำงาน

หากเป็นคำถามเชิงลักษณะ “มีวิธีไหนให้ทำงานบริษัทญี่ปุ่นที่นี่ได้บ้าง” “มีคำแนะนำให้สัมภาษณ์ผ่านหรือไม่?” ลักษณะดังกล่าวบ่งบอกถึงการคดโกง ความไม่จริงใจ ไม่ซื่อสัตย์ต่อการทำงานของตนเอง ต่อให้คุณมีโปรไฟล์ดีก่อนมาสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้า HR ได้ยินคำถามดังกล่าวอาจชวนให้เกิดการตกใจ และมองคุณในแง่ลบได้ทันที เพราะแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังไม่ค่อยซื่อสัตย์ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติและโอกาสที่มาถึงของตนเองจะดีที่สุด

  1. คำถามเกี่ยวกับตำแหน่งอื่นที่เปิดรับสมัคร

หากคุณมีความมั่นใจ ตั้งใจที่จะเข้ามาสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นกับตำแหน่งนั้น แล้วจู่ ๆ ก็มีคำถามในเชิงว่าตำแหน่งอื่นของบริษัทยังว่างหรือไม่ บ่งบอกถึงความลังเล ขาดความมั่นใจ การตัดสินใจไม่เด็ดเดี่ยวมากพอ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการทำงานในหลายเรื่อง โดยเฉพาะงานระดับหัวหน้า ผู้จัดการ ที่ต้องควบคุมคน และทำการตัดสินใจอยู่บ่อยครั้ง นี่จึงเป็นอีกคำถามที่ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างการพูดคุยกับ HR เป็นอันขาด

  1. คำถามเกี่ยวกับสิทธิ์การลา

แม้หลายคนมองว่านี่เป็นสิทธิ์ที่พนักงานทุกคนพึงได้รับอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าถามสักนิดว่าทำงานบริษัทญี่ปุ่นที่นี่หลังสมัครแล้วจะได้รับสิทธิ์การลาตั้งแต่เมื่อไหร่อาจดูเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงคำถามดังกล่าวบ่งบอกถึงความไม่เป็นมืออาชีพ รู้สึกถึงความตั้งใจที่อยากเอาเปรียบองค์กร ซึ่งไม่ว่าใครก็คงไม่ชอบแม้แต่เพื่อนพนักงานเข้าใหม่ด้วยกันเอง ปกติตามพื้นฐานการลาหากมีเหตุจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องถามหาสิทธิ์ของตนเองตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าทำงาน

  1. คำถามเกี่ยวกับการเลย์ออฟพนักงาน

เรื่องสุดท้ายในการสัมภาษณ์งานหลัง HR เปิดโอกาสให้คุณได้สอบถามข้อสงสัย เรื่องที่อย่าถามเป็นอันขาดนั่นคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเลย์ออฟ หรือการปลดพนักงานออก เพราะเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความ Sensitive แถมยังบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อถือในบริษัทที่ตนเองกำลังวางแผนอยากเข้าทำงานด้วย โอกาสการผ่านสัมภาษณ์จึงเป็นเรื่องยากเพิ่มขึ้นไปอีก

ทั้งหมดนี้คือบรรดาคำถามในการสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นของผู้สมัครที่กำลังเข้าสู่ขั้นตอนสัมภาษณ์งาน หากคุณอยากทำงานบริษัทญี่ปุ่นกับองค์กรดังกล่าว เมื่อถึงช่วงที่ HR เปิดโอกาสให้สอบถาม อย่าสอบถามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นความหวังที่จะได้เข้าทำงานคงเป็นเรื่องยากกว่าเดิมมากทีเดียว

Other Articles