ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องที่มักทำให้พนักงานจำนวนมากต้องถูกเลิกจ้าง ทั้งเรื่องสถานการณ์โรคระบาด การมีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น การแบกรับต้นทุนขององค์กร ฯลฯ เมื่อบวกกับงานสมัยนี้ไม่ใช่จะหากันง่าย ๆ หากคุณเองทำงานบริษัทญี่ปุ่นอยู่แล้วและอยากอยู่รอดปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยงต่อการโดน Layoff จึงต้องรู้จัก 5 เทรนด์การทำงาน 2023 ของบริษัทญี่ปุ่น เพื่อต่อยอดศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น ยึดตำแหน่งไว้อย่างเหนียวแน่น

5 เทรนด์การทำงาน 2023 อยากอยู่รอดในองค์กรต้องรู้เอาไว้

1. พร้อมทำงานแบบ Hybrid เสมอ

คำว่า “Hybrid” ในที่นี้ก็มีความหมายชัดเจน นั่นคือ คุณต้องพร้อมยืดหยุ่นลักษณะการทำงานของตนเองเพื่อความคล่องตัวต่อด้านบริหารจัดการของเหล่าผู้บริหาร เช่น มีการสลับทำแบบ Work From Home และเข้าออฟฟิศ เป็นครั้งคราว สามารถขยับตำแหน่งหรือ Scope งานของตนเองให้แตกต่างจากเดิม รับผิดชอบหน้าที่มากขึ้นได้ เป็นต้น หากคุณจัดสรรสิ่งเหล่านี้ได้ดีพอ บริษัทญี่ปุ่นก็พร้อมให้อยู่ต่อและจ้างด้วยผลตอบแทนสูงแบบไม่ต้องสงสัยเลย

2. หมดยุคการทำงานแค่หน้าที่ของตนเอง

สมัยก่อนการทำงานที่มีบุคลากรเยอะแต่ละคนอาจไม่ต้องวุ่นวายหน้าที่อื่นมากนัก แต่เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป เทรนด์การทำงาน 2023 ไม่ว่าจะบริษัทไหนก็ตามพนักงานต้องสามารถรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ได้มากกว่าแค่หน้าที่หลักของตนเอง เช่น คุณเคยเป็นพนักงานขายเน้นการออกพบลูกค้าเพื่อเสนอขายสินค้าอย่างเดียว แต่ตอนนี้อาจต้องดูแลเรื่องเอกสาร หรือการจัดซื้อสินค้า / วัตถุดิบบางประเภทด้วยตนเอง เพื่อองค์กรจะได้ประหยัดต้นทุนการจ้างฝ่าย Support เดินหน้าต่อง่ายมากขึ้นกว่าเดิม

3. ทันโลก ทันยุคสมัย ใช้เทคโนโลยีให้เป็น

การทำงานบริษัทญี่ปุ่นโดยพื้นฐานเรื่องความทันสมัย หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็นสิ่งที่มักอยู่คู่กันตลอด หากเป็นเด็กยุคใหม่คงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจเท่าใดนัก จะมีปัญหาก็หนีไม่พ้นคนยุคเก่ามากซึ่งยังคงเข้าใจความอนาล็อกในหลาย ๆ เรื่องอยู่ ดังนั้นหากคุณมีอายุ 45 ปีขึ้นไป แล้วอยากอยู่รอดหรือได้ทำงานภายใต้การดูแลของบริษัทญี่ปุ่นไปจนเกษียณก็ต้องเปิดใจเรียนรู้กับสิ่งที่ทันยุคสมัย ทันโลก ใช้เทคโนโลยีให้พอเข้าใจและไม่ขัดกับแนวทางองค์กรยุคใหม่

4. ไม่ถือตัวความเป็นอาวุโส

เทรนด์การทำงาน 2023 เด็กยุคใหม่จำนวนมากมีทักษะ ความรู้ สามารถพัฒนาตนเองและเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรให้เติบโตแบบก้าวกระโดด หากคุณเป็นผู้ใหญ่ หรือเป็นคนทำงานในองค์กรนั้นมานานถึงขนาดอยู่ในระดับอาวุโสไม่แนะนำให้ใช้เรื่องอายุไปข่มเด็กหรือข่มผู้น้อย เพราะนั่นกำลังบ่งบอกถึงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กรได้เสมอ เช่น เลือกตัดสินใจคนเดียวโดยไม่ฟังเหตุผลผู้อื่น คุณอาจสร้งาความเสียหายแบบไม่รู้ตัว ดังนั้นยุคนี้คนทำงานมาก่อนไม่ใช่คนที่เก่งสุด แต่เป็นคนที่พร้อมเปิดใจกับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทดแทนพวกเขา

5. เต็มที่กับงานและต้องดูแลสุขภาพเสมอ

ท้ายที่สุดในยุคใหม่ไม่ว่าคุณจะทำงานบริษัทญี่ปุ่นหรือองค์กรใดก็ตาม เทรนด์สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ ในเวลางานสามารถทุ่มเทกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่มีขีดจำกัด แต่เมื่อทุกอย่างจบลงต้องไม่ลืมใส่ใจสุขภาพของตนเองด้วยเช่นกัน หาเวลาออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ลดการปาร์ตี้ลงบ้าง เพื่อตอนทำงานสามารถเค้นศักยภาพของตนเองออกมาได้เต็มที่ บริษัทญี่ปุ่นพร้อมให้คุณเติบโตแน่นอน

ทั้งหมดนี้คือ 5 เทรนด์การทำงาน 2023 สำหรับคนที่คาดหวังอยากทำงานบริษัทญี่ปุ่นต่อไปยาว ๆ หรือในองค์กรใดก็ตาม เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน แนวคิด วิธีปฏิบัติก็ย่อมแตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นหากคุณอยากรักษาตำแหน่งของตนเองในบริษัทญี่ปุ่นให้ยืนยาวมาพร้อมกับผลตอบแทนน่าพึงพอใจก็อย่าลืมนำไปปรับใช้เด็ดขาด