content
กฎ Parkinson’s Law คืออะไร
กฎ Parkinson’s Law คือ คำภาษาอังกฤษที่ระบุว่า “work expands so as to fill the time available for its completion.” ซึ่งแปลเป็นไทยได้ประมาณ “ผู้คนมักขยายระยะเวลาการทำงานออกไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังคงมีเวลาอยู่” หากให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายก็พอจะสรุได้ว่า ลักษณะของคนส่วนใหญ่แม้รู้หน้าที่ รู้ภาระการทำงานของตนเองมีเรื่องไหนบ้าง แต่เมื่อใดที่ยังไม่ถึงช่วงเวลากำหนดส่งก็ยังไม่รีบร้อนทำ ปล่อยเวลาออกไปเรื่อย ๆ จนเริ่มรู้สึกเกรงจะไม่ทันจึงค่อยใส่ใจ ใส่พลังกับงานดังกล่าว
ในมุมของการทำงานบริษัทญี่ปุ่น หรือทำงานบริษัทใดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ย่อมไม่ใช่เรื่องดี และไม่เป็นที่ต้องการขององค์กรอย่างแน่นอน จุดเริ่มต้นของคำดังกล่าวเกิดจากนิยามของ Cyril Northcote Parkinson นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ และยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือน่าสนใจหลายเล่ม เจ้าตัวได้ระบุเอาไว้ในนิตยสาร The Economist เมื่อปี 1955 ซึ่งคนจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศมักมีความแปลกในการทำงานอย่างหนึ่งคือ หากยังไม่ถึงเดดไลน์ ไม่ถึงกำหนดส่ง งานดังกล่าวก็จะถูกปล่อยคั่งค้างเอาไว้ ไม่ยอมทำ สมองไม่แล่น คิดไม่ออก แต่เมื่อไหร่ที่รู้ว่าเดดไลน์กำลังจะถึง มีเวลาทำที่ระบุเส้นตายไว้ชัดเจนกลับสามารถทำงานส่งตามเวลาดังกล่าวแบบไม่น่าเชื่อ
นิยามของ Parkinson’s Law มีอะไรบ้าง
หากจะไล่เรียงสรุปนิยมของ Parkinson’s Law ตามความหมายที่ผู้เขียนอย่าง Cyril Northcote Parkinson ได้ระบุเอาไว้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นใหญ่ ได้แก่
- ยืดเวลางานออกไปเพื่อให้ผลงานสมบูรณ์แบบที่สุด
บ่อยครั้งเวลาคุณทำงานบริษัทญี่ปุ่นมักต้องการความละเอียด ผลงานออกมาถูกใจมากที่สุด จึงไม่สามารถทำให้เสร็จได้ตามกำหนด หรือพยายามปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ หากรู้ว่ากำหนดเดดไลน์ยังอยู่อีกยาวไกล ความมุ่งหวังของประเด็นนี้คือต้องการให้งานสมบูรณ์แบบ ออกมาดีที่สุด แต่เมื่อไหร่ที่ใกล้ถึงกำหนดส่งแล้วก็มักเลือกสิ่งที่ตนเองตัดสินใจครั้งสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ไขใหม่ อาจมองเป็นเรื่องแปลกแต่นิสัยของหลายคนเป็นแบบนี้จริง ๆ เรียกว่าไอเดียในหัวมีเยอะ จะแก้ไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อไหร่ที่รู้ว่าต้องทำให้ทันการตัดสินใจมักเร็วขึ้นทันที
- ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ ถ้าเดดไลน์ยังอีกนาน
คนลักษณะแบบนี้ส่วนใหญ่องค์กรมักไม่ค่อยชอบมากนัก เพราะถ้ามองมุมหนึ่งก็เปรียบกับคนขี้เกียจ ไม่ค่อยอยากทำงานบริษัทสักเท่าไหร่นัก รู้ว่าตนเองมีงานอะไรบ้างแต่ก็เลือกจะปล่อยผ่านจนถึงช่วงใกล้ระยเวลากำหนดส่งจึงค่อยมาเร่งเครื่อง หากทำทันก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าทำไม่ทันย่อมมีโอกาสทำให้องค์กรเกิดความเสียหาย ขณะที่ตัวคุณก็เสียภาพลักษณ์ไปด้วยเช่นกัน การปรับนิสัยตนเองจึงสำคัญมากกับเรื่องนี้
เอาชนะกฎ Parkinson’s Law ได้อย่างไรบ้าง
เมื่อรู้แล้วว่ากฎ Parkinson’s Law เป็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก การรู้วิธีเอาชนะจึงพร้อมช่วยให้คุณสามารถแก้นิสัยดังกล่าวให้ออกไป อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ทำให้การทำงานบริษัทญี่ปุ่นหรือทำงานบริษัทต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
- แบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานย่อยแล้วกำหนดเดดไลน์ให้ชัด
กรณีที่คุณมีโปรเจกต์ใหญ่ต้องทำ ซึ่งอาจกินระยะเวลาหลักเดือน หรือหลายเดือนก็ตาม พยายามแบ่งงานดังกล่าวออกเป็นงานย่อย จากนั้นกำหนดเดดไลน์ของแต่ละงานให้ชัดเจน วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าต้องส่งงานให้ครบกำหนดอยู่ตลอด ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ปล่อยงานทิ้งไว้จนต้องมาเกิดอาการไฟลนก้นภายหลัง
- วางแผนงานให้ชัดว่าจะทำอะไรบ้าง
การที่คุณไม่เคยวางแผนงานล่วงหน้าอาจทำให้รู้สึกว่ามีช่วงระยะห่างระหว่างตอนเริ่มงานกับกำหนดส่งงานมากเกินไป วิธีที่จะช่วยลดความห่างดังกล่าวลองกำหนดให้ชัดเจนว่างานแต่ละสเต็ปต้องทำอะไรบ้าง เมื่อเห็นสโคปงานหรือแผนงานแล้วจะช่วยให้ทุกคนเกิดแรงกระตุ้นมากขึ้น เพราะรู้ว่างานแต่ละขั้นตอนต้องอาศัยเวลาจะทำทีเดียวให้เสร็จเป็นเรื่องยากมาก
- สร้างวินัยให้กับตนเองมากขึ้น
หากคุณรู้ว่าตนเองอาจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยโดยยังไม่ทำงานอาจต้องสร้างวินัยให้กับตนเองมากขึ้น เช่น การตั้งนาฬิกา การเขียนบันทึก หรือการเลี่ยงนิสัยทำงานหลายอย่างพร้อมกัน แต่โฟกัสเพียงแค่งานหลักที่ต้องส่งก่อน สิ่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาการปล่อยปละละเลยหรือไม่ยอมทำงานของคุณได้อย่างดี หากเปลี่ยนได้เมื่อไหร่รับรองว่ายังไงก็เกิดผลลัพธ์เชิงบวกแน่นอน
การเอาชนะกฎ Parkinson’s Law ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดสำหรับคนที่เลือกทำงานบริษัทญี่ปุ่นรวมถึงการทำงานบริษัททุกองค์กรก็ตาม แม้เป็นนิสัยที่ตนเองคุ้นชิน แต่ถ้ารู้ว่าอาจสร้างความเสียหายหรือสร้างปัญหาในอนาคตก็ควรเริ่มต้นปรับใหม่ทันที อย่าปล่อยหรือมองข้ามเด็ดขาด เพราะไม่มีองค์กรไหนชอบและเสี่ยงต่อการตกงานในอนาคตได้เช่นกัน