content
เหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้คนอยากเปลี่ยนงาน หางานบริษัทใหม่
- รู้สึกว่างานหนักไม่คุ้มกับเงินเดือน
เหตุผลแรกซึ่งจัดว่ามีความคลาสสิกมากสุดแต่กลับถูกพูดถึงน้อยเมื่อต้องระบุเหตุผลการลาออกนั่นคือรู้สึกว่างานที่ตนเองได้รับหนักมากเกินไป ยิ่งเมื่อเทียบกับเงินเดือนด้วยแล้วสัมผัสถึงความไม่คุ้มค่าเหนื่อย ต้องการงานที่สบายมากกว่านี้ อารมณ์การอยากเปลี่ยนงานจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และเมื่อถึงจุดทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็พร้อมเดินไปพูดคุยกับ HR เพื่อแจ้งลาออกทันที
- สภาพแวดล้อมการทำงาน
พนักงานจำนวนไม่น้อยมักรู้สึกไม่มีความสุขหากต้องเจอสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการทำงานสักเท่าไหร่นัก เช่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นสารเคมี สภาพอาคาร ของใช้ส่วนกลางเก่า ออฟฟิศแสงไฟสว่างไม่เพียงพอ ห้องน้ำสกปรก มีสัตว์ร้ายต่าง ๆ อยู่ตามซอกมุม ฝ้าเพดาน ฯลฯ การเจอเรื่องแบบนี้เป็นใครก็อยากหางานบริษัทใหม่แบบไม่ต้องสงสัย
- ทำเลที่ตั้งของออฟฟิศ
เรื่องนี้เข้าใจได้ว่าบางทีออฟฟิศอาจไม่ได้มีทางเลือกมากนักกับการเช่าหรือซื้อพื้นที่เพื่อทำกิจการของตนเอง แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าหากทำเลของบริษัทไม่ค่อยดีอัตราการลาออกจากงานของพนักงานในองค์กรย่อมสูงเป็นเรื่องปกติ เช่น ตั้งอยู่ในซอยลึกมาก ไม่มีรถบริการสาธารณะผ่าน ซอยเปลี่ยว ไม่ค่อยมีผู้คน บริเวณโดยรอบเสียงดัง มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ การจราจรติดขัด อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น
- หัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
นี่คืออีกปัจจัยสำคัญที่มักทำให้คนอยากเปลี่ยนงานกันมากเป็นอันดับต้น ๆ คงไม่ผิดนัก หากเจอเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานดี คุยกันถูกคอ ทำงานแล้วมีความสุข การย้ายงานจะลดลงแบบไม่ต้องสงสัย อีกมุมหนึ่งหากเจอคนประเภท Toxic ชอบนินทาว่าร้าย ชอบจ้องจับผิดขณะทำงาน ทำงานแบบเอาตัวรอด ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ไม่ตั้งใจแก้ไข ชอบโยนภาระมาให้ตัวคุณ มักขาด ลา มาสาย จนต้องทำงานแทนบ่อย ๆ และอีกมากมาย ถ้าเจอคนแบบนี้เป็นใครก็คงทำแบบเดียวกัน
- สวัสดิการไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง
เรื่องสวัสดิการบริษัทเป็นอีกพื้นฐานที่พนักงานอาจใช้เป็นเหตุผลตัดสินใจลาออกจากงาน ยิ่งถ้าพวกเขาเจอกับองค์กรที่ให้สวัสดิการดีกว่า เช่น การทบจำนวนวันลาพักร้อนในปีถัดไปได้ พนักงานตรวจสุขภาพฟรีปีละ 1 ครั้ง มีขนม ชา กาแฟ ให้ทานระหว่างวัน มีงบให้ไปตรวจสายตา ตัดแว่นตา เป็นต้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้ก็มีส่วนที่จะทำให้การลาออกเกิดขึ้น
- วัฒนธรรมองค์กร หรือเป้าหมายการทำงานไม่สอดคล้องกับตนเอง
Passion หรือเป้าหมายของการทำงาน รวมถึงวัฒนธรรมขององค์กรก็มีส่วนไม่น้อยสำหรับพนักงานว่าควรทำงานอยู่ที่เดิมหรือควรเลือกหางานบริษัทใหม่ เช่น บางคนตั้งใจเข้ามาทำงานในตำแหน่งฝ่ายการตลาดออนไลน์เพื่อหวังนำทักษะที่ตนเองมีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กรเดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่คาดหวังไว้ แต่เมื่อทำงานไปสักพักกลับรู้สึกว่าพนักงานคนอื่น หรือแม้แต่ฝ่ายบริหารดูไม่ค่อยสนใจกับแนวทางของคุณมากนัก เป้าหมายการทำงานจึงดูไม่สอดคล้องกัน หรือบางบริษัทมีวัฒนธรรมองค์กรว่ามื้อกลางวันนิยมทานข้าวร่วมกันแต่คุณสะดวกกับการทานคนเดียวมากกว่าจนเพื่อนร่วมงานมีการนินทาเกิดขึ้น เป็นต้น
- ขาด Work Life Balance ในการทำงาน
ยุคสมัยใหม่ผู้คนต่างชื่นชอบการทำงานที่มีสมดุลต่อการใช้ชีวิต แต่ถ้าพวกเขารู้สึกว่าบริษัทไหนไม่ตอบโจทย์ด้าน Work Live Balance ก็ไม่แปลกที่รู้สึกอยากเปลี่ยนงานใหม่ แม้ได้เงินเดือนเยอะทว่ามีเวลาพักผ่อนน้อย ต้องทำงานดึกดื่น หรือเข้างานแต่เช้า วันเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่ค่อยได้หยุด เป็นต้น บางทีหากหางานบริษัทใหม่แม้เงินเดือนน้อยลงแต่ชีวิตดีขึ้น ได้พักผ่อนมากขึ้น คงเป็นคำตอบที่ดีกว่า
- ไม่มีความมั่นคงในตำแหน่งหรืองานที่ทำ
เหตุผลข้อสุดท้ายที่มักทำให้คนตัดสินใจลาออกจากงานเพราะรู้สึกว่าตำแหน่งหรือหน้าที่การงานของตนเองขาดความมั่นคง ไม่แน่นอน เสมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายที่พร้อมขาดได้ทุกเวลา ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้ก็มีได้หลายปัจจัยตั้งแต่สถานะด้านการเงินของบริษัทไม่ค่อยสู้ดีนัก ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ มองแต่เรื่องการปรับลดต้นทุนหรือการทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้า เกิดคลื่นใต้น้ำภายในองค์กร ทำงานดีแต่ไม่ถูกเสนอผลงานและอื่น ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 8 เหตุผลที่มักทำให้มนุษย์ออฟฟิศอยากเปลี่ยนงาน บ่อยครั้งเมื่อปัญหามันสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ทำงานที่เดิมมานานแต่บางทีหากเลือกหางานบริษัทแห่งใหม่ พบเจอกับสังคมใหม่อาจเป็นคำตอบที่ดีกว่า แต่ถ้าใครรู้สึกมีความสุขดีกับการทำงานที่เดิมอยู่แล้วก็ไม่มีเหตุผลใดต้องคิดมากเรื่องการลาออกจากบริษัท ทั้งนี้ปัจจุบันยังถือเป็นเรื่องดีที่การหางานง่ายขึ้นผ่านออนไลน์ ค้นหางานที่ใช่กันได้เลย