การทำงานแบบ Work From Home ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคหลังโควิด-19

การทำงานแบบ Work From Home ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคหลังโควิด-19
ในช่วง 4-5 ปีก่อนที่โควิด-19 เกิดการระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก องค์กรจำนวนมากต่างเลือกให้พนักงานทำงานแบบ Work From Home หรือการทำงานที่บ้าน ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิด ลดการสัมผัสและส่งต่อเชื้อ อย่างไรก็ตามเมื่อปัจจุบันสถานการณ์โรคระบาดไม่ได้รุนแรงอีกต่อไป บริษัทญี่ปุ่นรวมถึงองค์กรจำนวนมากเริ่มยกเลิกนโยบายดังกล่าวแล้วให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศกันมากขึ้น จึงเกิดคำถามตามมาว่าสรุปแล้วการทำงานแบบนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม? แล้วพนักงานบริษัทควรปรับตัวอย่างไรดี?

เมื่อถึงยุคสมัยที่การทำงานแบบ Work From Home ไม่ใช่สิ่งสำคัญ

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดน้อยลงมาก ส่งผลให้จากเดิมที่บริษัทญี่ปุ่นรวมถึงองค์กรจำนวนมากอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home ก็เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง บางแห่งลดจำนวนการทำงานที่บ้านน้อยลง สลับกันเข้ามาในออฟฟิศมากขึ้น บางแห่งยกเลิกถาวรแล้วให้พนักงานบริษัทเข้ามาทำงานในออฟฟิศแบบ 100% แม้มีบางองค์กรมองว่าการทำงานที่คุ้นเคยในช่วงหลายปียังคงได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็เริ่มมีให้พนักงานเข้ามาพบปะพูดคุย หรือพยายามหาวิธีให้พนักงานของตนเองเข้ามาออฟฟิศมากขึ้น

สิ่งที่ตามมาคือพนักงานส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหากับการกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศเหมือนอย่างที่คุ้นเคย แต่สำหรับบางคนพวกเขากำลังมองว่าสิ่งนี้สร้างความลำบากยุ่งยากในชีวิตมากขึ้นทั้งเรื่องการเดินทาง ค่าใช้จ่าย สมดุลของ Work Life Balance ลดลง และอีกมากมาย เรียกง่าย ๆ คือ รู้สึกไม่คุ้นชินกับการต้องเข้าไปทำงานในออฟฟิศเหมือนเดิม จนถึงขั้นขอลาออกกันเลยทีเดียว!

การทำงานแบบ Work From Home ในยุคนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม?

จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำเอาเกิดข้อสงสัยตามมามากมาย สรุปแล้วการทำงานแบบ Work From Home ยังจำเป็นอยู่หรือไม่?

เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของบริษัทและพนักงานแต่ละคนว่ามีแนวคิดอย่างไร เพราะทั้งการทำงานที่ออฟฟิศกับการทำที่บ้านต่างก็มีข้อดี-ข้อด้อยแตกต่างกันไป แต่ท้ายที่สุดก็คงต้องประเมินจากผลลัพธ์ของงานที่เกิดขึ้นเป็นหลัก บวกกับนโยบาย มุมมองของผู้บริหารที่จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าว

บางแห่งหากการทำงานยังมีประสิทธิภาพ ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ การอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านก็ช่วยประหยัดต้นทุนด้านค่าน้ำ ค่าไฟ ขณะที่ตัวพนักงานเองก็ยังมีผลดีในหลายด้าน แต่อีกมุมหนึ่งหากการทำงานที่ออฟฟิศสามารถสร้างประโยชน์ได้มากกว่า คุณในฐานะพนักงานคนหนึ่งก็ไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเรื่องนี้เพราะถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ทุกคนต้องเข้าใจได้อยู่แล้ว

หากลองสังเกตคนรอบตัวหรือแม้แต่ตนเองจะพบว่าทั้งคนทำงานบริษัทญี่ปุ่นและองค์กรทุกแห่งเริ่มมีการแบ่งประเภทการทำงานออกชัดเจน บางบริษัทก็ยกเลิกการทำงานที่บ้านแบบ 100% บางแห่งยังคงเหลือไว้บ้างแต่ก็ต้องกลับเข้ามาอยู่ออฟฟิศบ้างเพื่อความสะดวกในการทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือที่เรียกกันว่า Hybrid Working

พนักงานบริษัทปรับตัวยังไงดีเมื่อไม่มี Work From Home

มาถึงสิ่งที่พนักงานบริษัทจำนวนไม่น้อยอาจรู้สึกกังวลใจเล็ก ๆ หากองค์กรของตนเองตัดสินใจยกเลิกระบบ Work From Home (ซึ่งตอนนี้ก็มีบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งยกเลิกไปแล้ว) นั่นคือต้องปรับตัวเองยังไงดีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับงาน ความรู้สึก ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ลองใช้คำแนะนำเหล่านี้ได้เลย

  • ทำความเข้าใจว่าการทำงานในออฟฟิศคือพื้นฐานทั่วไปที่พนักงานทุกคนต้องยอมรับ
  • ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันของตนเองให้เข้าสู่สภาวะที่เหมาะสม เช่น นอนเร็วขึ้นเพื่อจะได้ตื่นเช้าเข้างานทันเวลา
  • วางแผนค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ ให้รอบคอบมากขึ้นเมื่อการใช้เงินจะเยอะกว่าตอนอยู่บ้าน เช่น คำนวณเงินคร่าว ๆ ที่ต้องจ่ายแต่ละวัน การมองหาวิธีที่จะทำให้ค่าเดินทางไปทำงานประหยัดมากขึ้น เป็นต้น
  • ยอมรับและปรับตัวกับการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นภายในจิตใจจนคุณภาพของงานลดลง
  • สร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นเพื่อให้รู้สึกว่าการกลับเข้ามาออฟฟิศมีสิ่งดี ๆ เสมือนเป็นเป้าหมายให้อยากมาทำงานทุกวัน

ขณะที่องค์กรต่าง ๆ เองก็ต้องมีการปรับรูปแบบ บรรยากาศ สิ่งแวดล้อมการทำงานให้ตอบโจทย์กับพนักงานบริษัทของตนเองมากที่สุด เช่น การมีสวัสดิการด้านเครื่องดื่ม มีพื้นที่พักผ่อน ความยืดหยุ่นด้านการเข้างานในช่วงแรก เป็นต้น เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับสิ่งดีที่สุด

แค่การยกเลิก Work From Home ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องลาออก

มีงานวิจัยบางแห่งระบุถึงกลุ่มพนักงานบริษัท Gen Z มักมองว่าพวกเขาเองมีความคุ้นชินกับการทำงานแบบ Work From Home ดังนั้นหากต้องกลับเข้ามาอยู่ในออฟฟิศแบบ 100% ก็จะตัดสินใจลาออกแล้วหางานใหม่ดีกว่า?

ต้องบอกว่าสิ่งนี้ไม่ใช่สาเหตุหลักของการจะตัดสินใจลากออกเพียงเพราะไม่ได้ทำงานกับบ้านเหมือนเดิม แต่ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ ไม่ใช่แค่องค์กรที่คุณทำงานอยู่เท่านั้น แต่บริษัทญี่ปุ่นและองค์กรอีกจำนวนไม่น้อยก็เริ่มใช้วิธีนี้เพื่อความสะดวกต่อการทำงานของทุกฝ่าย

จึงขอเน้นย้ำเสมือนเป็นสื่อกลางให้ทุกคนทำความเข้าใจโลกแห่งการทำงานที่กำลังเกิดขึ้นมากขึ้นกว่าเดิม แม้รูปแบบ Work From Home จะมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับสถานการณ์ก่อนหน้ายุคที่โรคระบาดมีความอันตราย แต่เมื่อทุกอย่างมีสัญญาเปลี่ยน หน้าที่ของพนักงานบริษัททุกคนย่อมหนีไม่พ้นทำงานตามความรับผิดชอบทั้งกับบริษัทญี่ปุ่นหรืออื่น ๆ เพื่อการเติบโตของตนเองและผลลัพธ์ที่ดีของงานนั่นเอง

Other Articles